ประโยชน์ของคลื่นเสียง
มนษย์ได้ยินเสียงมาตั้งแต่เกิด
ทารกสามารถจำแนกและแยกได้ว่าเสียงใดเป็นเสียงบิดา
หรือเสียงมารดา
เสียงช่วยในกพัฒนาการสื่อสารเป็นภาษาพูดของมนุษย์ เสียงจากสิ่งต่าง ๆ
รอบตัวทำให้มนุษย์เข้าใจสภาพแวดล้อมของตนดีขึ้น
จะเห็นว่าเสียงเป็นปัจจัยหนึ่งของการดำรงชีวิติ
ความรู้เรื่องเสียงยังทำให้มนุษย์สามารถสร้างเครื่อวัดระยะทางแบบต่าง ๆ ได้
เช่นให้เสียงเคลื่อนที่จากเครื่องกำเนิดไปกระทบวัตถุที่ต้องการ เมื่อเสียงสะท้อนกลับมาถึงเครื่องรับ
(ซึ่งอยู่ติดกับเครื่องกำเนิด) อุปกรณ์จะคำนวณหาเวลาที่เสียงเคลื่อนที่ในอากาศ แล้วสรุปเลขออกมาเป็นระยะทาง
นอกจากจะใช้หาระยะทางที่วัตถุอยู่ไกลในอากาศแล้ว ในกรณีวัตถุที่อยู่ในน้ำ
เช่น ฝูงปลา เรือดำน้ำ
และหินโสโครกใต้น้ำ
ก็สามารถใช้หลักการเดียวกันหาระยะทางได้
เช่นกัน โดยใช้อุปกรณ์พิเศษที่ทำงานในน้ำได้ หรือในการหาระยะลึกของชั้นหินต่าง ๆ
ใต้พิภพ
ก็สามารถหาได้โดยใช้การระเบิดที่ผิวโลก แล้วจับเวลาที่เสียงสะท้อนจากชั้นหินเบื้องล่างกลับมาที่เครื่องรับให้ทราบโครงสร้างทางธรณีวิทยาของบริเวณที่สำรวจได้
ในด้านการศึกษาลักษณะการออกแบบอาคาร
เช่นห้องประชุม
ทั้งสถาปนิกและวิศวกรต้องคำนวณล่วงหน้าว่าต้องการให้มีเสียงก้องในอาคารมากน้อยเพียงใด และใช้วัสดุเก็บเสียง เช่น พรม ม่าน
แผ่นกระดาษเก็บเสียง ฯลฯ เพื่อช่วยให้เวลาที่เกิดเสียงก้องพอเหมาะพอดี ก่อนที่เสียงก้องจะจางหายไป
ด้านการแพทย์ก็ได้มีการนำเสียงมาใช้ในการตรวจอวัยวะภายในของคนเพื่อวินิจฉัยสาเหตุของความผิดปกติ เช่น
ตรวจการทำงานของลิ้นหัวใจ มดลูก
ครรภ์ เนื้องอก ตับ ม้ามและสมอง
เพราะเสียงสามารถสะท้อนที่บริเวณรอยต่อระหว่างชั้นของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้้
ในการออกแบเพื่อลดระดับความเข้มของเสียงของเครื่องยนต์ เครื่องจักรในโรงงาน
เสียงจากยานพาหนะบนทางด่วน
ก็อาศัยความรู้เรื่องการดูดกลืนเสียง
นอกจากนั้นมนุษย์ยังนำความรู้ด้านเสียงมาสร้างและพัฒนาเครื่องดนตรีด้วย จึงทำให้มีเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ มากมาย
อาทิเช่นเครื่องสาย ได้แก่ ไวโอลิน ซอสามสาย
ซออู้ ซอด้วง กีตาร์ พิณ
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย
รวมทั้งเครื่องดนตรีที่สร้างจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์
จะเห็นว่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเสียงนั้นมีมากมาย ถ้าเราสามารถทำความเข้าใจหลักการทางวิทยาศาสตร์ของเสียง
จะช่วยให้เรามีความรู้พอที่จะนำไปใช้พัฒนาหรือสร้างเครื่องมือ
เครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น